How to เลือกสินค้าก่อนเป็นตัวแทนจำหน่าย

Untitled-3-01

การเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไม่ใช่ว่า สินค้านั้นจะขายได้ทุกอย่าง ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ หรือไม่ติดตลาด เป็นตัวแทนไปก็ไร้ประโยชน์ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา การจะเลือกสินค้านั้น ควรมีเทคนิค การมองสินค้าให้ออกว่าสินค้าไหนที่สามารถพาเราไปในจุดที่รุ่ง มีออเดอร์ปัง และสมควรที่เจะเริ่มการลงทุนให้กับสินค้านั้นๆ ทางเราจึงมีเทคนิคเล็กๆ ในการมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ ให้กับตัวแทนจำหน่ายลองเอาไปปรับใช้กันค่ะ

ดูว่าสินค้านั้น ได้ทำการตลาดได้ดีหรือไม่  ถ้าสินค้านั้นทำการตลาดได้ดีพอ ตัวแทนจำหน่ายก็จะขายได้ ไม่ต้องทำการตลาดเองให้เหนื่อย สังเกตได้ง่าย ๆ คือ เมื่อเราไปเดินที่ไหน ตามแหล่งสินค้า ห้าง หรือสอบถามกับคนรอบข้าง ว่ารู้จักสินค้าตัวนี้หรือเปล่า เคยใช้ไหม ถ้าคนรอบข้างรู้จัก เคยได้ยิน นั่นคือสินค้าตัวนั้น ได้ผ่านการทำการตลาดมาแล้ว เหมาะที่จะลงทุนเป็นตัวแทน ถ้าสินค้าได้ผ่านทำการตลาดมาอย่างหนักจนเป็นที่รู้จักเพียงแค่พูดชื่อ ก็จะทำให้สามารถขายสินค้านั้นได้ง่ายๆ แต่ถ้าสินค้าพอมีชื่อเสียง พอเคยได้ยิน คุณก็ยังพอขายได้แต่ต้องทำการตลาดเพิ่มได้อีกนิดหน่อย แต่ถ้าคุณมีความสามารถในการขายสินค้า มีความชำนาญ  คุณก็ต้องลงแรงและเหนื่อยหน่อย แต่คุณก็ยังคงขายได้อยู่

ถ้าคุณเป็นคนขายเก่ง มีความชำนาญด้านการขาย คุณสามารถเลือกสินค้าไหนก็ได้ ที่ไม่จำเป็นว่าต้องติดตลาดแล้ว แต่คุณมีความสามารถทำให้คนรอบข้าง หรือ คนทั่วไปซื้อสินค้าของคุณได้ คุณก็สามารถขายสินค้าได้รุ่ง และ ปัง แต่อย่าลืมว่า ถ้าคุณเลือกสินค้าที่ยังไม่ทำการตลาด คุณเองอาจจะเหนื่อยมาก คุณควรเลือกผลตอบแทนกำไรหรือ เปอร์เซนต์ที่ได้จากการขายสินค้านั้นให้สมเหตุสมผลกับแรง เวลาที่คุณเสียไป

ฉะนั้น สรุปได้ว่า การที่จะมองหาสินค้าเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่าย ให้ปัง ให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องลงทุน หรือเวลาที่ต้องเสียไปกับการขายสินค้านั้น ควรมองหาสินค้าที่ ทำการตลาดมาอย่างหนัก และติดตลาดมากพอสมควร ยิ่งมีชื่อเสียงยิ่งดียิ่งขายได้ จะทำให้เราไม่ต้องไปลงแรงหรือลงทุนเสียค่าโฆษณาเองได้เหนื่อย หรือต้องใช้ความพยายามมากในการขายสินค้านั้นแต่ถ้าคุณ มีความสามารถในการขายที่สูง มีเทคนิคการขายที่ขายยังไงก้ขายได้ขายปัง ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือกสินค้าที่ติดตลาด หรือมีชื่อเสียง เพราะคุณเองมีทักษะการขายที่ดีอยู่แล้ว สามารถเลือกสินค้าได้ตามความถนัดตามความต้องการแต่อย่าลืมว่า เมื่อสินค้ายังไม่ติดตลาด ทางเราเองก็เหนื่อยมากกว่าปกติ ต้องทำการตลาดอย่างหนักเพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ควรเลือกสินค้าที่มีค่าตอบแทน ให้กำไรสูง เปอร์เซนต์การขายกับคุณ ให้มากพอกับความเหนื่อยที่คุณพยายามกับให้สินค้านั้นเป้นที่รู้จักมากขึ้นและขายได้อย่างไม่สะดุด